วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

10อาชีพที่นิยม

ผลสรุปของสาขา-อาชีพ ยอดนิยม ทั้งความนิยมของนักเรียน และความต้องการของนายจ้างในยุคนี้ โดยสวนดุสิตโพลสำรวจ ฟันธงออกมาได้ว่า การเรียนด้าน “บัญชี” ผงาดขึ้นครองอันดับ 1 ตามติดมาด้วย แพทย์ บริหารธุรกิจ คอมพิวเตอร์ วิศวะ การตลาด นิติศาสตร์ พยาบาล การจัดการ และปิดท้ายด้วยรัฐศาสตร์….ใครที่คิดเอาดีใน 10 ด้านนี้ โอกาสที่จะหางานได้ง่ายในอีก 4-5 ปีข้างหน้าท่าทางจะสดใส...
ทำไม...สาขาและอาชีพทั้ง 10 ด้านนี้ จึงมีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของตลาด
ตามมาเลย...!!!
อันดับ 1 นักบัญชี
น้อง ๆ ที่กำลังสนใจอาชีพการเป็นนักบัญชี หรือสมุห์บัญชี ควรสำรวจตัวเองว่า มีนิสัยอย่างไร บุคลิก หรือการทำงานที่ผ่านมา ชอบทำตามกฎเกณฑ์หรือไม่ เนื่องจากคนที่จะทำงานทางด้านนี้ ควรจะมีบุคลิกภาพที่ทำตามระเบียบแบบแผน (Conventional) ซึ่งหากสำรวจตัวเองว่ามีคุณสมบัติดังกล่าว ก็เตรียมตัวกันได้เลย...


หน้าที่รับผิดชอบนักบัญชี จะทำหน้าที่ วางแผน และดำเนินงานด้านการเงินและการคลังของสถานประกอบการธุรกิจ บุคคล สถาบันเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาล ร่วมกำหนดนโยบายและวางระบบและระเบียบด้านบัญชี การเงิน และงบประมาณ ร่วมคิดค้น วางระบบ ควบคุมงานบัญชีต่าง ๆ และงบประมาณ วางแผนด้านการจัดตั้งงบประมาณ อีกความรับผิดชอบที่สำคัญคือ ติดตามการใช้เงินของหน่วยงาน วิเคราะห์งบการเงิน และประเมินผลการลงทุน จัดทำรายงานทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและเชื่อถือได้ วิเคราะห์และจัดทำระบบสารสนเทศด้านการเงินเพื่อให้ผู้บริหารใช้ในการบริหารและตัดสินใจในการบริหารงานให้เกิดประสิทธิภาพ ตลอดจนให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานด้านบัญชี การเงินและงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องและเป็นมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของต้นทุน ปริมาณ และผลตอบแทน รวมทั้งวิเคราะห์สภาพคล่องของกิจการ และข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้เกี่ยวกับการดำเนินงาน
การปฏิบัติงาน
สิ่งสำคัญของการทำงานบัญชีคือ ต้องบันทึกข้อมูลการเงินขององค์การอย่างสมบูรณ์ตามระบบ เป็นระเบียบแบบแผน ทำบัญชีรายรับ หรือบัญชีรายจ่าย ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร บันทึกเกี่ยวกับการจ่ายเงิน การรับเงินและธุรกิจการเงินอื่นๆ ลงบัญชีแยกประเภทตรวจสอบการลงบัญชี คำนวณและจ่ายเงินค่าจ้าง ทำรายงานแสดงฐานะทางการเงิน ทำรายงานแสดงฐานะทางการบัญชี ทำหน้าที่ปิดงบการเงิน ให้บริการทางการบัญชีแก่สถานประกอบกิจการธุรกิจ บุคคล สถาบันเอกชน หรือหน่วยงานรัฐบาล
นอกจากนี้แล้ว ความสำคัญและข้อได้เปรียบของนักบัญชีก็คือการทำหน้าที่ควบคุมดูแลการทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การตรวจสอบ การรับรองความถูกต้อง และความครบถ้วนในการทำบัญชีและเอกสารทางการเงิน ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่าย จัดเตรียมงบทดลอง บันทึก รายการรับจ่ายประจำวัน พร้อมจัดทำรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มซื้อและขายพร้อมทั้งเอกสารประกอบเพื่อนำเสนอกรมสรรพากรทุกเดือน และทุกสิ้นปี
ค่าตอบแทน
น้อง ๆ ที่เรียนและจบด้านบัญชีสามารถหางานและทำงานได้หลากหลาย ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน เนื่องจากทุกหน่วยงานจำเป็นต้องมีฝ่ายบัญชีเพื่อดูและรับผิดชอบโดยตรง ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนจึงขึ้นอยู่กับความสามารถ ความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในภาคเอกชน ค่าเหนื่อยขึ้นอยู่กับชิ้นงานด้วย แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ภาคเอกชนถ้าเป็นวุฒิ ปวส.รายได้จะอยู่ที่ 7,000-8,000 บาท ส่วนปริญญาตรีจะอยู่ที่ 10,000-12,000 บาท ส่วนการทำงานภาครัฐบาล จะได้รับเงือนเดือนตามวุฒิการศึกษา ปวส.อยู่ที่ 6,490 บาท และปริญญาตรีอยู่ที่ 7,260 บาท
การเรียนเพื่อเป็นนักบัญชี
ใครที่สนใจอาชีพนักบัญชี ต้องเลือกเรียนการบัญชีโดยตรง ซึ่งมีให้เลือกเรียนตั้งแต่อนุปริญญา วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จนถึงปริญญาตรี ถ้าจะต่อยอดระดับสูงขึ้นไปก็มีให้เลือกหลายสถาบันในประเทศและต่างประเทศ และถ้าเรียนจบแล้วต้องการทำหน้าที่ผู้ทำบัญชีในสถานประกอบกิจการที่จดทะเบียนการค้า ต้องเข้ารับการอบรมความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพบัญชีอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุกรอบ 3 ปี จากสถาบันวิชาชีพบัญชีหรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่อธิบดีกรมทะเบียนการค้าให้ความเห็นชอบ
เรียนจบหางานง่าย จะไม่ให้หางานง่ายได้อย่างไร เพราะการทำธุรกิจจะต้องมีคนทำงานด้านบัญชี อาชีพพนักงานบัญชีจึงยังคงเป็นที่ต้องการทั้งในหน่วยงานภาครัฐ ภาค เอกชน หรือธุรกิจส่วนตัว คนที่จบด้านนี้จึงเลือกทำงานได้หลายหน่วยงาน หลายองค์กรทั้งเอกชนหรือรัฐบาล แถมยังรับงานบัญชีไปทำที่บ้านได้อีกต่างหาก และเมื่อพนักงานบัญชีทำงานจนมีความพร้อมและมีคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี (กบช.) กำหนดไว้ก็มีสิทธิที่จะสอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตได้ ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ต้องการเป็นเถ้าแก่ก็จะตั้งบริษัท หรือรับงานพิเศษได้อีกเพียบเลย
ความก้าวหน้าและทางเลือกในอาชีพ
นอกจากการเป็นพนักงานบัญชีแล้ว ถ้ามีประสบการณ์และผลงานก็จะได้เลื่อนเป็นผู้ทำบัญชี สมุห์บัญชี ผู้ตรวจสอบภายในหรือพนักงานบัญชีที่ได้รับการอบรมเกี่ยวกับงานบัญชี และมีประสบการณ์สามารถที่จะสอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตสามารถที่จะรับงานตรวจสอบบัญชีเป็นอาชีพอิสระได้ และถ้าใครอยากเปลี่ยนไปทำงานด้านการธนาคาร บริษัทประกันภัย ประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นอาจารย์สอนบัญชีในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มีทางไว้ให้เลือกตามความชอบอีกด้วย

14 สไตล์ แนวการแต่งตัวของวัยรุ่น




วัยรุ่นสมัยนี้มีการแต่งตัวกันมากมาย

หลากหลายรูปแบบ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีแบบไหนบ้าง

เริ่มจากที่ฮิตที่สุดในตอนนี้...



1.เกาหลี (Korea)

ตอนนี้กระแสเกาหลีกำลังมากแรง

ไม่ว่าจะเป็นไอดอล เพลง ไม่เว้นแต่เสื้อผ้า

เสื้อผ้าเกาหลีจะออกแนว เรียบแต่ดูดี มีทุกสัสัน

ใส่ได้ทุกงาน กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุด 






2.ญี่ปุ่นฮาราจุกุ  (Japan)

เป็นแนวการแต่งตัวที่แอ็บแบ๊วมากที่สุด

หรือแนวๆ คอสเพลย์แบบญี่ปุ่นๆ

คิดว่าหลายๆ คนคงชอบค่ะ




3.Gankuro

สาวๆ จะนิยมทาหน้าทาตัวให้ดำ และย้อมผมสีทอง ใส่ไมโครสเกิร์ตและรองเท้าบูต ซึ่งเราจะเรียกว่า แฟชั่น Gankuro-หน้าดำ ซึ่งนับว่า เป็นแฟชั่นที่หลุดโลกมากทีเดียว


4.พั้งก์ (Punk)


เด็กพั้งก์มักไม่อยู่คนเดียว ส่วนใหญ่จะอยู่เป็นกุล่ม 

ซึ่งกลุ่มเด็กพั้งก์ที่ว่านี้มีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นพั้งก์ร็อค อีโมพั้งก์  

พั้งก์เมทอล พั้งสกา พั้งสเก็ต และอีกสารพัดพั้งก์ แต่งตัวส่วนใหญ่เน้นสีดำ ทาเล็บ ปากสีดำ  

ใส่เสื้อแจ๊คเก็ต กางเกงขารู๊ดรัดปลายขา รองเท้าหนัง  

บางกลุ่มยัดปลายกางเกงไว้ในรองเท้า เครื่องประดับเน้นทำมาจากเหล็กสีเงิน  

ออกแนวดุ โหด  

มีสองประเภทคือพั้งค์แบบออริจินอล (แบบฝรั่งอ่ะ) แล้วก็ U.K.Punk (พั้งค์แบบญี่ปุ่น)


U.K.Punk




พั้งแบบฝรั่งค่ะ (โหดกว่าเยอะ)






5.Emo

คล้ายๆ พังค์แต่จะไม่เวอร์มาก

คล้ายเด็กแมค นิยมทาขอบตาเป็นสีดำ

เจาะตามร่างกาย เช่น จมูก ปาก (บลาๆๆๆ)

ใส่เสื้อยืคสกีนโหดๆ อาร์ตๆ เข็มขัดหัวหมุด รองเท้าผ้าใบ

ทำผมข้างหลังให้ฟูมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนผมข้างหน้าทำให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้

*เหมาะสำหรับคนผิวขาวมากๆ ถึงมากที่สุด





6.เด็กบอร์ด,เด็กฮิป (Hiphop)
เด็กแนวนี้จะใส่เสื้อและกางเกงตัวใหญ่ๆ ขาสามส่วน จะชอบเพลงแนวฮิปฮอป  

ไปไหนก็มักไปกันเป็นกลุ่ม  



  





7.เด็กอินดิเพนเด้นท์  (Indy)
ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมมากๆ ออกแนวย้อนยุค (บางคนเอาเสื้อยายมาใส่ยังมี)

ตรงตัวเลยคือแต่งตัวต้องไม่ซ้ำแบบใคร จุดเด่นของแนวนี้เน้นเสื้อสีแป๋นๆ สดๆ  

ลายเสื้อและกางเกงเป็นเส้นขวางตัดไขว้ไปไขว้มา สุดท้ายต้องใส่แว่นตาสีสดๆ

หรือแว่นตาไม่เลนส์ที่เรียกกันว่าแว่นเด็กเนิร์สนั่นเอง 





8.โบฮีเมียน (Bohemian)

แนวนี้อาจไม่ค่อยฮิตมากในหมู่วัยรุ่น

เสื้อผ้าจะออกเป็นแนวยิปซี หมอดู แบบคล้ายๆ ปาร์มมี่อ่ะค่ะ

ปล่อยผ้ายาวๆ ดัดลอนเล็ก ชุดมีลวดลาย สีสันสวยงาม

เครื่องประดับมากๆ จำพวก กำไล สร้อยข้อเท้า

ส่วนใหญ่จะนิยมในพวกเด็กอาร์ต เด็กติสค่ะ




9.เด็กแมค
เด็กแมคนับเป็นแนวที่กำลังมาแรงที่สุด  

ซึ่งเด็กแนวนี้จะเลียนแบบการแต่งตัวของชาวเม็กซิกันสมัยก่อน ตัดผมสั้นเกรียน  

ที่สำคัญต้องห้อยสร้อยไม้กางเขน เสื้อตัวใหญ่ๆ สกรีนรูปโหดๆ อย่างกระโหลกไขว้  

สวมถุงเท้าให้ตึงจนถึงเข่า นุ่งกางเกงตัวโคร่ง แถมใส่แว่นดำในเวลากลางคืน




10. สกาเร็กเก้

แนวนี้ส่วนใหญ่จะแต่งเอาแนวอ่ะค่ะ

เน้นสี เขียว เหลือง แดง เท่านั้น

ผมฟูๆ สีดำ หรือ น้ำตาล

ส่วนใหญ่จะแต่งกันเฉพาะคนผิวดำ




-----------------------------------------



**เรามาดูแนวการแต่งตัวแบบนอกขอบเขต (ที่มีอยู่มากในประเทศไทย) บ้างดีกว่า **


11.เด็กเซอร์  
คือพวกที่ชอบทำตัวเซอร์ๆ แต่งตัวเซอร์ๆ ที่เด่นสุดคือกางเกง  
จะเป็นกางเกงยีนส์ที่ใส่บ่อยๆจนเก่า+ริ้วขึ้น ประมาณว่ายิ่งเก่าจะยิ่งเซอร์  

ที่สวนจตุจักรจะมีร้านขาย-รับ อยู่หลายร้าน ยิ่งเก่าได้เท่าไหร่ก็มีราคามากขึ้นเท่านั้น 

ส่วนรองเท้าเด็กเซอร์จะนิยมใช้converse ที่มันเก่าๆขาดๆ เสื้อก็เสื้อยืดธรรมดา การแต่งตัวจะตรงกับชื่อคือ "เซอร์"  


12.เด็กแซป  

ลักษณะเด่นๆ ของเด็กแนวอย่างเด็กแซป คือทรงผมดูยุ่งๆ ปาดหน้า  

ใส่เสื้อตัวเล็กรัดรูป หรือใส่เสื้อเชิ้ตมีลายพร้อย นุ่งกางเกงขาเดฟ  

หรือกางเกงลายทหาร ถุงเท้าขาวดึงขึ้นสูง รองเท้าต้องผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์ส  

ออสตาร์ หรือแจ็คพาเซล บางครั้งใส่เสื้อทับสีดำ  

และเสื้อข้างในสีส้มหรือเสื้อทหารลายพลาง นุ่งกางเกงฟุตบอล ใส่รองเท้าคีบ  

ถ้าเป็นผู้หญิงจะซอยผมด้านบนให้สูงๆ สั้นๆ แต่ยังคงความยาวไว้ และเรียกว่า  

"สก๊อย" หรือ "เลดี้แซป" เป็นพวกเดียวกับเด็กแซป นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอกสีชมพู  

เสื้อสีขาวตัวเล็ก ใส่รองท้าหูคีบ  



13.เด็กเทส,เด็กแว้น,เด็กแป๊น
  

"เด็กเทส" หรือ "เด็กแว้น" "เด็กแป๊น" มาจากเสียงเวลาบิดมอเตอร์ไซค์  

ชอบทำเครื่องยนต์ใหม่ให้มีเสียงดัง และแรงเวลาบิดทีก็ทำให้ชาวบ้าน  

ชาวช่องปวดหูไปตามๆ กัน ชอบใส่เสื้อรัดรูป กางเกงขาเดฟ  

ผู้หญิงจะนุ่งขาสั้นชอบซ้อนมอเตอร์ไซค์  



14.เด็กผ้าบาง  
เด็กแนวกลุ่มนี้จะนิยมใส่เสื้อเนื้อบางๆ ที่สำคัญต้องทำจากผ้าคอตตอน 50%  

เท่านั้น